วันนี้นั่งทำ power point เกี่ยวกับผลงานของ อสม. หมู่ที่ 1 ต.ปลวกแดง จำนวน 14 แผ่นสไลด์ เสร็จเรียบร้อย พร้อมในการนำเสนอ วันศุกร์ที่ 26 กรกฏาคม 2556 ในวันประชุม อสม.ของปลวกแดง ณ. โรงพยาบาลปลวกแดง
หน้าปก..ของการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ |
เมื่อเสร็จจากงานนี้ ทำให้นึกถึงลูกสาวที่เรียนอยู่ รร.กวงฮั๊ว เมื่อเช้าเธอ จามออกมาแรง พร้อมมีน้ำมูกสีเขียว อาการหวัดยังไม่หายดี หลังจากเป็นมาจะครบ 2 อาทิตย์แล้ว จะโทษว่า ฟ้าฝน ก็ไม่ได้ เธอทั้งทานยา ดื่มน้ำอุ่น อาบน้ำอุ่น ก็ยังไม่หายจากอาการหวัด ทำให้ผู้เขียนมานึกอยากเขียนเรื่องโรคเกิดในเด็ก โดยเฉพาะกับลูกสาว (ด.ญ อมลวรรณ เกตุมาลา) จะเขียนเป็นหัวข้อๆ โดยการค้นคว้าจากอินเตอร์เนต พร้อมทั้งระบุแหล่งที่มา แล้วสรุปให้ได้ใจความ ถ้า อสม. มาอ่านแล้ว เข้าใจ สามารถ นำไปถ่ายทอดให้คนชุมชนได้ โรคแรก ก็คือ โรคอ้วน
โรคอ้วน
โรคอ้วน คือ ภาวะที่ไม่สมดุลระหว่างการได้รับพลังงานพฤติกรรมการกินที่ไม่สัมพันธ์กับการออกกำลังกาย หรือการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันนั่นเอง
โรคอ้วนใน เด็กถือได้ว่าเป็นโรคที่แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆความชุกของภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกรรมพันธุ์ แต่ภาวการณ์กินอย่างไม่เหมาะสม สร้างโรคอ้วนได้มากกว่ากรรมพันธุ์อีก
อาหาร - อาหารฟาสฟู้ดส์ อาหารขนมถุงอบกรอบ อาหารประเภทที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ และอาหารที่มีนมเป็นส่วนประกอบมาก เช่น เบเกอรี่ ชีส เนย
เครื่องดื่ม - น้ำหวาน น้ำอัดลม หรือแม้กระทั่งนมเปรี้ยวก็มีปริมาณน้ำเชื่อมมาก นั่นทำให้มีระดับน้ำตาลที่มากตามไปด้วย
ลักษณะอาการและผลกระทบ
สภาพร่างกายเจ้าเนื้อ น้ำหนักขึ้นเกินกว่ามาตรฐานปกติ อาจจะมีสัญญาณบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น ปวดข้อเท้า เพราะข้อเท้าต้องรองรับน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไป อาการนอนกรน และหยุดหายใจขณะหลับ เพราะเด็กอ้วนจะมีท่อทางเดินหายใจแคบกว่าปกติ และเด็กที่เป็นโรคอ้วนจะเหนื่อยง่ายกว่าเด็กปกติอีกด้วย โรคหัวใจขาดเลือดตั้งแต่เล็กๆ โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ
อาหารที่เหมาะสมกับเด็กเพื่อป้องกันโรคอ้วน
- เนื้อสัตว์ - ควรเป็นเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เมนูอาหารปลา เพราะเนื้อปลามีไขมันต่ำกว่าเนื้อสัตว์อื่นๆ
- ไข่ - เด็กๆ ควรกินไข่วันละ 1 ฟอง
- นม - เด็กสามารถดื่มนมวันละ 2-3 แก้วหรือกล่องได้ แต่ถ้าคนไหนอ้วนอยู่แล้วควรเปลี่ยนมาเป็นนมพร่องมันเนยแทน
- ไขมัน และน้ำมัน - แนะนำการใช้น้ำมันพืชเช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว ฯลฯ ยกเว้น น้ำมันปาล์มหรือน้ำมันมะพร้าวในการปรุงอาหารสลับกับการประกอบอาหารด้วยวิธี ต้ม นึ่งบ้าง
- ข้าวสวย และอาหารแป้งอื่นๆ - เด็กวัยนี้ไม่ควรกินแป้ง หรือข้าวเกิน 6 ทัพพี/วัน
- ผัก - ควรให้เด็กได้กินพืชผักในปริมาณที่มากๆ หรือประมาณวันละ 1-2 ถ้วยตวง โดยเฉพาะผักใบเขียว และผักอื่นๆ เช่น ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง กะหล่ำปลี ฯลฯ
- ผลไม้ - พยายามจัดเมนูให้ลูกได้กินผลไม้สดๆ สักมื้อละ 1 ส่วน (ให้พลังงาน 60 กิโลแคลอรี่) เช่น ส้มเขียวหวาน 1 ผล หรือเงาะ 4 ผล หรือฝรั่งครึ่งผล (ขนาดกลาง) ฯลฯ
อาหารที่ควรเลี่ยงเพื่อป้องกันโรคอ้วนในเด็ก
- แฮมเบอร์เกอร์
- โดนัท
- ไก่ชุบแป้งทอด
- มันฝรั่งทอด
- น้ำอัดลม
- ข้าวโพดอบเนย
- วุ้นผงสำเร็จรูป และเยลลี่
- ไอศกรีม
ที่มา : http://www.momypedia.com
ในส่วนของ ผู้เขียนเอง เลี้ยงบุตรสาวมา ด้วยนมของตนเองมา น้ำหนักของบุตรสาวเกินมาตรฐาน ตั้งแต่อายุ 1 เดือน ซึ่งตัวผู้เขียนก็แปลกใจว่า ในเมื่อทานนมแม่อย่างเดียว ทำไมถึงน้ำหนักเยอะนัก พออายุได้ 6 เดือน ลำตัวเป็นปล้องๆ ทำให้กลุ้มใจมาก เพราะหลังจาก อายุ 6 เดือน (น้ำหนักประมาณ 12 กิโลกรัม) ต้องเสริมอาหารให้ทานควบคู่กับนมแม่แล้ว จากวันนั้นจนถึงวันนี้ บุตรสาวของผู้เขียนหายจาก การเป็นปล้องๆ ตามลำตัวแล้ว แต่แก้มของเธอ ไม่ได้ลดลง
อายุ 11 เดือน
อายุ 1 ขวบ 11 เดือน
ปัจจุบันอายุ 3 ขวบ 6 เดือน น้ำหนัก 20 กิโลกรัม
ผู้เขียนเองพยายามพาออกกำลังกาย ควบคุมอาหารบ้าง เป็นธรรมดาของเด็ก ที่ต้องอยากกินของหวาน แต่ผู้ปกครอง ต้องใจแข็งไว้ ผู้เขียนเคยไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมออธิบายเรื่องการออกกำลังกายว่า ต้องให้น้องวิ่ง ตึกๆ เพื่อให้กระดูกได้สะเทือน แล้วน้องจะสูงขึ้น ตอนนี้เราให้น้องลดน้ำหนักไม่ได้ แต่เราต้องพยายามทำให้น้องสูงขึ้น ส่วนเรื่องทานนม ตอนนี้น้องตังเม ทานนมสด ไขมันนม 0% (น้องไม่เคยทานนมผง) ถ้าไปโรงเรียน จะทานนมเช้าเย็น แค่ 2 มื้อ ประมาณ180 มล./มื้อ ถ้าไม่ไปโรงเรียน จะทาน เช้า-สาย-บ่าย-เย็น ซึ่งคุณหมอแนะนำว่า อย่าซื้อนมปริมาณมาก ให้ซื้อน้อยๆ เพราะถ้าน้องเห็น น้องก็จะขอทานนมทั้งวัน ซึ่งผู้เขียนก็ทำตามคำแนะนำของุคุณหมอ ใครมีเรื่องเด็กอ้วน มาแชร์กันได้นะคะ เพื่อเป็นความรู้ต่อไปค่ะ......